^^Smile^^

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

นมสดหนึ่งแก้ว


นมสดหนึ่งแก้ว. .


เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เด็กชายเคลลี่ ซึ่งอยู่ในครอบครัวที่ฐานะยากจน เขาต้องหาเงินไปโรงเรียนเอง ด้วยการนำสิ่งของใส่กระเป๋าเดินไปขายตามบ้านที่อยู่ใ นเมืองใกล้ เคียง

.....วันหนึ่งเขาพบว่าเมื่อจ่ายค่ารถและค่าสินค้าแล้ว เขามีเงินในกระเป๋าเหลือเพียง 10 เซ็นต์ เท่านั้น

ขณะนั้นเขากำลังหิวมาก แต่เงินสดที่มีอยู่นั้นไม่พอที่จะซื้ออาหารแม้แต่เพี ยงมื้อเดียว

.... ดังนั้นเขาจึงคิดจะไปขออาหารจากบ้านที่กำลังเดินไปถึ ง แต่เมื่อกดกริ่งแล้ว หญิงสาวเจ้าของบ้านมาเปิดประตู เด็กชายเคลลี่กลับเกิดความละอายที่จะขออาหารเหมือนกั บขอทานที่ ทำมาหากินไม่เป็น เขาจึงขอเพียงน้ำเปล่าเพียงแก้วเดียวเท่านั้น แต่เจ้าของบ้านสาวสังเกตุเห็นท่าทางของเด็กชายเคลลี่

ว่าคงจะกำลังหิว เธอจึงได้นำเอานมสดแก้วใหญ่มาให้เคลลี่ดื่ม เด็กชายเคลลี่ดื่มนมอย่างกระหายจนหมดแก้วแล้วถามว่า...........


“ผมต้องจ่ายเงินค่านมถ้วยนี้ให้คุณเท่าไหร่ครับ” เจ้าของบ้านสาวตอบว่า

“ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก แม่ของฉันสอนไม่ให้รับสิ่งตอบแทนจากการให้น้ำใจไมตรี ”

เคลลี่ซาบซึ้งใจมากและตอบว่า

“ ถ้าเช่นนั้น ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง จากหัวใจของผมก็แล้วกันนะครับ"


ขณะที่เด็กชายเคลลี่ได้เดินออกจากบ้านหลังนั้น เขาไม่เพียงแต่ รู้สึกว่ามีกำลังแข็งแรงขึ้นจากนมสดแก้วโตเท่านั้น แต่เขาได้มีความเข้าใจในเรื่องของน้ำใจไมตรีเพิ่มขึ้ นด้วย ... อีก30 ปีต่อมา มีหญิงคนหนึ่ง ป่วยหนักด้วยโรคหัวใจ ซึ่งแพทย์ท้องถิ่นไม่สามารถรักษาได้ จึงส่งไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโรคหัวใจทำการ รักษา เมื่อได้อ่านประวัติผู้ป่วยแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นได้สะดุดใจกับชื่อหมู่บ้าน ของผู้ป่วยคนนั้น จึงตั้งใจรักษาด้วยการผ่าตัดหัวใจอย่างพิเศษ โดยใช้อุปกรณ์ทันสมัยที่สุดและยาราคาแพงที่ดีสุด จนผู้ป่วยหายเป็นปกติพร้อมจะกลับบ้าน


ผู้ป่วยมีความเกรงว่าค่ารักษาพยาบาลคงจะมีราคาแพงหลา ยหมื่นดอลลาร์ ซึ่งเธอเข้าใจว่าคงจะต้องทำงานทั้งชีวิตกว่าเธอจะหาเ งินค่ารักษาพยาบาลได้ เพราะเธอไม่มีประกันสุขภาพ และยังไม่สามารถไปเบิกได้จากที่ไหน แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนนั้น ได้บอกเจ้าหน้าที่แผนกบัญชี ให้นำใบเก็บเงินไปให้เขา แล้วหมอก็ใช้ปากกาเขียนข้อความสองบรรทัดแล้วยื่นให้เ จ้าหน้าที่บอกให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเลย ข้อความที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นเขียนในใบเรียกเ ก็บเงินนั้นมีว่า


“จ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ด้วยนมสดหนึ่งแก้ว” ...........................


ลงนาม นายแพทย์โฮเวอร์ด เคลลี่


“ราคาของนมสดหนึ่งแก้ว” เป็นเหตุการณ์จริงที่เกี่ยวกับน้ำใจไมตรีในต่างประเท ศ

(ข้อมูลจากคณะทำงานกลุ่มน้ำใจไมตรี ประเทศสิงคโปร์ จากจดหมายของนายแพทย์โฮเวอร์ด เคลลี่)

รอย....บน.....ผืน ....ทราย


รอยบนผืนทราย.............

เพื่อนสนิทสองคนเดินทางท่องเที่ยวร่วมกัน ระหว่างยํ่าเท้าผ่านทะเลทราย
ทั้งสองโต้เถียงกันรุนแรงจนเพื่อนคนหนึ่งโมโหมาก ตบหน้าเพื่อนอีกคน ผู้ถูกตบหน้าเจ็บปวดทั้งกายและใจ เขาไม่พูดอะไรเลย ขณะที่เขียนข้อความหนึ่งลงบนทราย
"วันนี้...เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันตบหน้าฉัน" ทั้งคู่เดินทางต่อไป
เมื่อพบโอเอซิสแห่งหนึ่งจึงตัดสินใจอาบนํ้า
เพื่อนคนที่ถูกตบหน้าพลัดตกนํ้าและจมลงเรื่อยๆ อีกคนจึงรีบช่วยเพื่อนให้พ้นความตาย เมื่อหายตกใจแล้ว คนจมนํ้าก็เขียนข้อความลงบนก้อนหิน
"วันนี้...เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันช่วยชีวิตฉันไ ว้" เมื่อเพื่อนถาม
เพื่อนก็ยิ้มแล้วตอบว่า
"เมื่อเพื่อนทำร้ายเรา เราจะบันทึกไว้บนผืนทราย เพื่อให้สายลมแห่งการให้อภัยลบความเจ็บปวดนั้นทิ้งไป และเมื่อเพื่อนทำในสิ่งประเสริฐสุดให้ เราจะจารึกไว้บนก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ ซึ่งลมพายุไม่สามารถลบมันออกได้...

" เพราะ.....".เพื่อนแท้มิได้หาง่ายๆเหมือนแฟน " ว่ามะ?

ความรัก...กับ...ต้นหญ้า


ความรัก กับ ต้นหญ้า...


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ...มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กั บสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า


ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาคู่แท้เราเจอได้ไงคับ อาจารย์บอกผมหน่อยได้ไหม คับ? อาจารย์ : (เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ) อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถาม ที่ง่ายเหมือนกันนะ


ลูกศิษย์ : (นั่งคิดอย่างหนัก) อืม?....งงอะไม่เข้าใจ


อาจารย์ : โอเค งั้น เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะ เลยใช่ไหม เธอลองเดิน ไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะ แต่ว่า เวลาเธอเดินเนี่ย เธอต้องเดินไป ข้างหน้าอย่างเดียวนะ ห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม


ลูกศิษย์ : ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ (ว่าแล้ว ก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า) หลังจากนั้นไม่นาน....


ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจาน


อาจารย์ : อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ ในมือเธอเลยหละ ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจาน ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวย ๆ เนี่ย ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยว ก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้ ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน แล้วผมก็เดินไปเรื่อย รู้ตัวอีกที มันก็สุดสนามหญ้าแล้ว ครับ จะเดินกลับก้อไม่ได้ เพราะจานสั่งห้ามไว้


อาจารย์ : นั่นแหละ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ ... เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา ต้นหญ้า ก็คือ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือ คนที่คุณชอบ หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ ส่วนทุ่งหญ้า ก็คือ เวลา ... เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ แล้ว คิดว่า คงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่ เปรียบเทียบ คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่า..."เวลาไม่เคยย้อนกลับ" ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับ การหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุในชีวิต หรือ แม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณ ดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรม ที่ว่า ...


"จงรัก และ ไขว่คว้า โอกาสที่คุณมีในขณะนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลา บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น..."

"Who is loses?"


เขา...ผู้สูญสิ้น ทรัพย์สินไป >>>> --- He who loses money---







เขา...สูญเสียมากเหลือเกิน >>>> --- loses much---





เขา...สูญสิ้นเพื่อนไป >>>> ---He who loses a friend---





เขา...สูญสิ้นมากกว่า >>>> --- loses more ---





เขา...ผู้สูญสิ้นความศัทธา>>>> --- He who loses faith ---







เขา...ผู้นั้นสูญเสียยิ่งกว่า ใคร ใคร>>> --- loses all ---